Lifelong Learning การเรียนรู้ตลอดชีวิต กุญแจสู่ความสำเร็จในโลกที่ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา
ความหมายของการเรียนรู้ แท้จริงคืออะไรกันนะ? ถ้าในยุคนี้ ผมคิดว่าอาจจะหมายถึง กุญแจสู่ความสำเร็จในชีวิตเลยก็ว่าได้นะครับ
เพราะทุกอย่างเปลี่ยนไปไวมากๆ ใครที่หยุดเรียนรู้ก็ยากที่จะตามโลกยุคใหม่ได้ทัน ดังนั้นการมี Mindset ที่รักในการเรียนรู้ตลอดชีวิต เข้าใจความหมายของการเรียนรู้ และรู้ว่า การเรียนรู้คืออะไร ฝักใฝ่เรียนรู้เพิ่มเติมในสิ่งต่างๆ พร้อมทั้งนำสิ่งสิ่งที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้กับการทำงานได้นั้นจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราทำอะไรก็ประสบความสำเร็จได้แบบเยอะขึ้นมากๆ
วันนี้ผมเลยอยากจะมาแชร์แนวคิดเรื่อง การเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือที่หลายๆ คนเรียกกันว่า Lifelong learning นั้น ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร จะช่วยให้ First Jobber และคนทำงานประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างไร พร้อมทั้งวิธีการเปลี่ยนตัวเองให้เป็น Lifelong learner ที่จะไปทำงานที่ไหน ใครๆ ก็อยากได้ตัวไปทำงานด้วย ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยครับผม!
การเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Lifelong learning คืออะไร?
การเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Lifelong learning คือ กรอบแนวคิดและแรงจูงใจในการเรียนรู้ด้วยตนเองได้อย่างไม่รู้จบ เพราะมีแรงผลักดันในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองและเติมเต็มความรู้ส่วนที่ขาดหายไป ไม่ว่าจะเป็นความรู้รอบตัว หรือความรู้ในหน้าที่การงาน โดยที่ไม่ต้องให้ใครกระตุ้นให้เรียน
ถ้าสรุปง่ายๆ ละก็ “การเรียนรู้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในห้องเรียน” น่าจะเป็นคำตอบที่รวบความเป็น Lifelong learning หรือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต ได้ดีมากๆ ครับ เพราะว่าแม้เราจะเรียนจบแล้ว ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ห้องเรียนไม่ได้สอน และนั่นทำให้เรายังต้องเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ นั่นเอง
เพราะ Lifelong learning คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ เราจึงต้องเป็น Lifelong learner นักเรียนรู้ตลอดชีวิต
ไม่ว่าจะเรื่อง Crypto Currency, Blockchain, Big Data หรืออะไรต่างๆ มากมายนั้น นับว่าเป็นเรื่องใหม่มากๆ สำหรับใครหลายๆ คน
แต่เรื่องเหล่านี้กลับเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ถึงขั้นที่ว่า ถ้าเรายังปล่อยให้ตัวเอง “ใหม่” กับสิ่งเหล่านี้โดยไม่มีการเรียนรู้เพิ่มเติม หรือ เรียนรู้ด้วยตนเอง รอแต่ให้คนมาสอน ไม่ไขว่คว้า และไม่เรียนในสิ่งที่โลกต้องการละก็ ผลที่เกิดขึ้นจะทำให้การทำงานของเราลำบากขึ้นมากแน่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ First Jobber อย่างเราๆ
ดังนั้นการพัฒนาทักษะเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Lifelong learning เพือให้ตามโลกได้ทัน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการประสบความสำเร็จในการทำงานยุคดิจิทัล เราจึงต้องเปลี่ยนตัวเองให้สามารถเป็น Lifelong learner ที่มองว่า ชีวิตคือการเรียนรู้ เข้าใจว่าเราเรียนไปเพื่ออะไร ทำไมเราต้องเรียน และไม่ได้มองว่าความรู้มีเฉพาะแค่ในห้องเรียนเท่านั้น
การเป็น Lifelong learner จึงเป็นการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ให้เราสามารถเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา และเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้บุคคลอย่าง Elon Musk ประสบความสำเร็จได้ทุกวันนี้ เพราะไม่หยุดที่จะเรียนรู้เลยแม้แต่น้อยตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน
พัฒนาตัวเองให้มีทักษะ Lifelong learning skill เรียนรู้ตลอดชีวิต แบบ Lifelong learner ได้อย่างไร?
Lifelong learner มักจะมองว่า ชีวิตคือการเรียนรู้ และสิ่งที่ได้เรียนรู้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ แต่เนื่องจาก Lifelong learning หรือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต นั้น ไม่ใช่แค่ทักษะการเรียนรู้ แต่ยังเป็นกรอบแนวคิดและทัศนคติที่มีต่อการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอีกด้วย
ดังนั้นถ้าเราอยากเรียนรู้ตลอดชีวิตได้เหมือน Lifelong learner ละก็ เราต้องพัฒนา Mindset ต่างๆ ควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดความคิดแบบ Lifelong learning ซึ่งผมมี 5 กรอบแนวคิดที่ผมคิดว่าจะช่วยให้เราเป็น Lifelong learner ที่ใครๆ ก็ต้องการตัวครับ
อยากเรียนรู้ตลอดชีวิตแบบ Lifelong learner ต้องมี Growth Mindset
การมี Growth mindset ถือได้ว่าเป็นรากฐานสำคัญของการมีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้ครับ เพราะว่าการมี Growth mindset คือการเชื่อว่าในความสามารถตัวเองว่า เราเรียนรู้เรื่องอะไรก็ได้ ไม่ว่าเรื่องเหล่าจะเป็นเรื่องใหม่และยากแค่ไหนก็ตาม ทำให้คนที่มี growth mindset นั้นเข้าใจความหมายของการเรียนรู้ และ Lifelong learning ได้ดีกว่าคนอื่นๆ
นอกจากนี้คนที่มี Growth Mindset มักจะมีความสงสัยใครรู้ หรือที่เราเรียกกันว่า Curiosity Mindset ซึ่งผลักดันให้เรามีจูงใจในการเรียนรู้เพิ่มเติม และทำให้เรากลายเป็น Lifelong learner ในที่สุด
อยาก Lifelong learning ต้องเรียนให้เป็นด้วย Learning how to learn
เข้าใจแค่แนวคิด Lifelong learning อาจจะไม่พอในการเป็น Lifelong learner เพราะถ้าอยากเป็น Lifelong learner ละก็ เราต้องเข้าใจคอนเซ็ปของการ Learning how to learn หรือวิธีการเรียนอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเรียนอะไรก็เข้าหัว!
หลายๆ ครั้งนั้น ผมเชื่อว่าเรามีแรงจูงใจในการเรียนรู้เพิ่มเติม และเข้าใจด้วยว่า ทำไมเราต้องเรียน หรือ รู้ว่าเราเรียนไปเพื่ออะไร เพื่อที่จะเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ทั้งกับการทำงานและการปั้นธุรกิจ แต่ว่าบางเรื่องก็ยากเหลือเกินกว่าจะเข้าใจ ทำให้หลายๆ ทีก็เบื่อ ท้อ และล้มเลิกในการเรียนรู้เรื่องนั้นๆ ไป
แต่ว่าถ้าเข้าใจเรื่องการเรียนรู้อย่างถูกวิธีนั้น เราจะเข้าใจว่าในเชิงวิทยาศาสตร์การทำงานของสมองนั้น การเรียนรู้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเรารู้สึกว่าเรื่องที่เรากำลังเรียนอยู่นั้นน่าปวดหัว จับต้นชนปลายไม่ถูก ต่างหาก ดังนั้นแล้ว หากอยากจะเป็นคนที่เรียนรู้ตลอดชีวิตได้อย่าง Lifelong learner ละก็ ต้องศึกษาเรื่องการเรียนอย่างถูกวิธีอย่างจริงจังเลย
อยากเรียนรู้ตลอดชีวิตต้อง Self-Learning (การเรียนรู้ด้วยตัวเอง)
หลังจากเราเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว เรามีโอกาสที่น้อยมากๆ ที่จะมีครูมานั่งสอนและสั่งการบ้านให้เราเรียนรู้เหมือนสมัยอยู่มหาลัย ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง ดังนั้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็น Lifelong learner ได้นั้น เราต้องเข้าใจแนวคิด การเรียนรู้ด้วยตนเอง หรือ Self-learning ครับ
การเรียนรู้ด้วยตัวเองเป็นการศึกษาหาความรู้จากหลากหลายที่ด้วยตัวเอง หลังจากนั้นการเรียนแบบ self-learning มักจะมีการนำความรู้ที่เรียนมาปรับใช้ ลองผิดลองถูก พัฒนาจนเกิดความชำนาญ จนสามารถนำความรู้ที่เรียนรู้ด้วยตนเองมาปรับใช้ได้หลากหลายอย่าง
ซึ่งการเรียนรู้ด้วยตนเองจึงเป็นหัวใจสำคัญของ Lifelong learning เลยก็ว่าได้ ถ้าใครอยากจะเป็น Lifelong learner ที่ทุกองต์กรต่างต้องการตัวละก็ ต้องฝึกฝนให้การเรียนรู้ด้วยตนเองให้ช่ำชองนะครับผม
อยากเรียนรู้ให้สนุกแบบฉบับ Lifelong learner ต้องเรียนแบบ Active Learning
รักการเรียนก็จริง แต่ก็ใช่ว่าเรื่องที่อยากเรียนมันจะสนุกทุกเรื่องนี่หน่า? ใช่เลยครับ เรื่องการไม่มีแรงจูงในการเรียนเพราะเรื่องที่เรียนนั้นน่าเบื่อซะเหลือเกินเป็นเรื่องที่เจอได้บ่อยๆ มาก ซึ่งถ้าอยากจะให้ตัวเองเป็นคนที่เรียนรู้ตลอดชีวิต อย่าง Lifelong Learner ละก็ เราต้องเรียนแบบ Active learning นั่นเอง
การเรียนรู้แบบ Active learning นั้นจะแตกต่างจาก Passive learning ที่จะเป็นการเรียนแบบนั่งฟัง lecture หรือท่องจำเฉยๆ แต่ Active learning เน้นการลงมือทำมากกว่า ซึ่งการลงมือทำจริงๆ เลยนั้นจะช่วยทำให้เราจับต้นชนปลายว่าแนวคิดที่เราเรียนนั้นมีความเชื่อมโยงกันยังไง สามารถช่วยให้เรานำความรู้ที่ได้หัดลงมือทำไปปรับใช้กับสถานการณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย
นอกจากนี้การเรียนแบบลงมือทำนั้นเรียกได้ว่าเป็นการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพที่สุดอีกวิธีนึงเลยก็ว่าได้ครับ ดังนั้นถ้าอยากจะเป็น Lifelong Learner ละก็ อย่าลืมว่าต้องเรียนแบบ Active Learning โดยการเอาความรู้นอกห้องเรียนมาลองใช้จริงๆ ไม่ใช่แค่นั่งฟังอยู่ในห้องเรียนแบบ Passive Learning นะครับผม เพียงเท่านี้เราก็เป้นคนที่เรียนรู้ตลอดชีวิตได้ไม่ยากเลย
ประสบการณ์การนำแนวคิด Lifelong learning มาปรับใช้
ผมไม่ได้เป็นคนที่ชอบเรียนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ น่าจะมีหลายๆ คนเหมือนที่ไม่ได้ชอบการเรียนมากนัก แต่พอเป็นช่วงวัยทำงานช่วง First Jobber ก็ค้นพบว่าตัวยังขาดความรู้และประสบการณ์อีกมากมายที่จะช่วยให้งานออกมาดี หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานยอมรับ
ผมเลยเริ่มขวนขวายมากขึ้นและสร้างทัศนคติแบบ Lifelong learning ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ผมได้พบกับหนังสือ Growth mindset โดยบังเอิญครับ เพราะเห็นมันวางขายเป็น Best Seller อยู่ ซึ่ง ณ ตอนนั้น เป็นครั้งแรกที่ผมบอกกับตัวเองว่า ผมจะเริ่มสร้างนิสัยการอ่านหนังสืออย่างจริงจัง และหนังสือ Mindset ของ Carol Dweck ที่เล่างานวิจัยเรื่อง Growth Mindset ก็เป็นหนังสือเล่มแรกที่ผมอ่าน และยังเป็นจุดเริ่มต้นการเป็น Lifelong learner ของผมด้วยครับ
ต่อจากนั้นผมก็ศึกษาเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย และได้พัฒนา Mindset ต่างๆ ที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดในบทความนี้ นอกจากนี้ เส้นทางการเป็น Lifelong learner ยังทำให้ค้นพบวิธีค้นหาตัวเองว่าอยากเรียนอะไรและจริงๆ แล้วตัวเองชอบอะไรอีกด้วย
ผมเคยทำงานด้านอสังหามาก่อนและก็ไม่ชอบมันเอามากๆ เลยครับ แต่ก็อย่างที่ว่านะครับ ถ้าไม่รู้ว่าเกลียดอะไรก็จะไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ผมก็เรียนรู้หลายอย่างมากๆ เพื่อค้นหาว่าตัวเองชอบอะไร และก็ได้ค้นพบว่าตัวเองชอบทำการตลาดออนไลน์และการเขียนโปรแกรมครับ
ถ้าใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มเส้นทางการนำแนวคิด Lifelong learning มาปรับใช้ ผมแนะนำให้ลองอ่านหนังสือ Mindset ของ Carol Dweck มากๆ เลยครับ ผมเชื่อว่าคนที่ได้อ่านจะมีแรงผลักดันในการเป็น Lifelong learner อย่างที่ผมเป็นได้แน่ๆ ครับ
สรุปการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong learning)
Lifelong learning นั้นสำหรับผมแล้ว คือกุญแจสู่ความสำเร็จในโลกของการทำงานยุคดิจิทัลเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมนั้น การเป็น Lifelong learner ไม่ใช่แค่ช่วยให้ผมรักการเรียนรู้เท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผมค้นพบวิธีค้นหาตัวเองว่าอยากเรียนอะไรอีกด้วย ผมหวังว่าวิธีการทั้ง 4 อย่างของผม นั่นก็คือ
- พัฒนา Growth Mindset ให้พร้อมเรียนรู้
- อยากเรียนรู้ตลอดชีวิต ต้องเรียนให้เป็นด้วย Learning how to learn
- อยากเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพต้อง Self-learning
- และเรียนให้สนุกด้วย Active Learning
หวังว่าบทความนี้จะช่วยเป็นกำลังใจให้ทุกคนรักการเรียนรู้ และเริ่มต้นเส้นทางการนำคอนเซ็ป Lifelong learning มาปรับใช้ให้ตัวเองเป็น Lifelong learner ที่พร้อมเรียนรู้เพิ่มเติม เข้าใจความหมายของการเรียนรู้ และนำสิ่งที่เรียนรู้ไปปรับใช้กับชีวิตในทิศทางที่ดียิ่งขึ้นครับ
บทความนี้มีเป็นประโยชน์กับคุณหรือไม่?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวตเลย!
Average rating 4.8 / 5. Vote count: 13