Growth Mindset คืออะไร? จะพัฒนาได้อย่างไรในวัยทำงาน?
จะพัฒนา Growth Mindset ยังไงในโลกการทำงานที่ไม่ส่งเสริมให้พัฒนาตัวเองได้? บทความนี้มีตัวอย่างและขั้นตอนที่ใช้ได้จริงสำหรับคนทำงานให้ประสบความสำเร็จในองค์กร
growth mindset article featured image

จ้างปุ้บ! ต้องเป็นงานปั้บ! 

พี่ขอคนมีประสบการณ์ เข้ามาปุ้บ ต้องทำงานได้ปั้บ Mindset ต้องดี และพี่ก็อยากให้คนที่จะมาเป็นพนักงานต้องมี Growth Mindset ซึ่งต้องผ่านการทำผิดพลาดและเรียนรู้เพื่อให้สามารถทำงานได้ 

อ้าว! แล้วแบบนี้จะมีทางออกสำหรับคนทำงานไหม?

องค์กรส่วนใหญ่มีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับ Growth Mindset ที่ทำให้พนักงานอย่างเราๆ ต้องปวดหัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการที่ความเชื่อที่ว่าการสร้าง Growth Mindset คือ การสร้างความมุ่งมั่นให้พนักงานในการทำให้บริษัทเติบโต หรือทำได้ทุกอย่างเพื่อบริษัท ซึ่งไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ซึ่งความเข้าใจผิดๆ เหล่านี้ ทำให้ Growth Mindset ได้กลายเป็นกึ่งๆ Buzzword ไปข่วงนึงเลย

Growth Mindset นั้นจริงๆ แล้วเป็นวิธีคิดที่เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาตัวเองเพื่อให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และจะช่วยให้เรามีประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นจริงๆ

แต่ผมคิดว่า ด้วยความที่องค์กรอาจจะมีความเข้าใจงานวิจัยเบื้องหลังของ Growth Mindset ที่ไม่ได้ถูกต้องมากนัก ทำให้การสร้าง Growth Mindset สำหรับคนทำงานอย่างเราๆ เป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะสภาพแวดล้อมหลายอย่างภายในองค์กรไม่ได้เอื้อให้พัฒนา Growth Mindset ได้เลย 

อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้พัฒนา Growth Mindset ได้ยาก คือการที่บริษัทอยากได้คนที่ทำงานได้เลย จ้างปุ้บ ต้องปรับทำงานได้ตั้งแต่วันแรก ซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นไปได้ค่อนข้างยาก

ต้องทำยังไงละทีนี้? เพราะไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน แต่ถ้าย้ายเข้ามาที่ใหม่ก็ต้องใช้เวลาปรับตัว ยิ่งถ้าเป็นเด็กจบใหม่พึ่งเริ่มทำงาน ก็ยิ่งต้องใช้เวลาในการล้มลุกคลุกคลานพอสมควรกว่าจะเริ่มทำงานคล่อง ถ้าทำได้ไม่ดีก็โดนประเมินต่ำ จนอาจถึงขั้นไล่ออก

ทางที่ผมเห็นมีไม่กี่ทาง ซึ่งหนึ่งในวิธีการจัดการปัญหานี้ เป็นวิธีที่ผมไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ก็ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมคนถึงเลือกใช้กัน

วิธีการก็คือว่า ในโลกของการทำงาน คนเก่งคือทรัพยากรอันล้ำค่า ดังนั้นการทำให้บริษัทมองว่าเราเก่ง ฉลาด และไว้ใจได้ จึงเป็นวิธีการเอาตัวรอดในบริษัท

เก่งจริงรึเปล่าไม่รู้ แต่ถ้าดูเก่งก็รอดไปเปราะนึง ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำไมพนักงานต้องทำให้ตัวเองดูดีตลอดเวลา และนำไปสู่การมีการเมืองในบริษัท โน้นนี่นั่น เพื่อให้อยู่รอดได้

ดังนั้นคนทำงานอย่างเราๆ เจออุปสรรคอันใหญ่หลวงมากในการพัฒนา Mindset ที่เป็นแต้มต่อในการก้าวหน้าในองค์กร แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ วันนี้ผมอยากจะนำเสนอการพัฒนา Growth Mindset ในฉบับคนทำงานเพื่อให้เราเก่งขึ้นจนเราออกแบบชีวิตของเราเองได้

หนังสือ Mindset อธิบายเกี่ยวกับผลกระทบขององค์กรต่อการพัฒนา Mindset ไว้ดีมากๆ ครับ

ถ้าสนใจเรื่อง Growth Mindset อยากอ่านแบบละเอียดๆ ต้องอ่านจากต้นฉบับเล่มนี้เลยครับ

Growth Mindset คืออะไร?

Growth Mindset คือ วิธีคิดที่เชื่อว่าคนเราพัฒนาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผ่านการเรียนรู้ ความพยายาม และการลองผิดลองถูก เพื่อฝ่าฟันทุกอุปสรรคไม่ว่าเล็กหรือใหญ่

เรามักจะเห็นพวกตัวเอกในการ์ตูนหรือซีรีย์เกาหลีมักจะไม่ยอมแพ้ และพยายามลองผิดลองถูกเพื่อบรรลุเป้าหมายหรือช่วยนางเอกให้พ้นภัยอันตรายใช่ไหม ซึ่งตรงนี้เองเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการมี Growth Mindset ครับ

growth mindset way of thinking

การที่ผมเอาเรื่อง Growth Mindset ไปเทียบกับตัวเอกในซีรีย์นั้น ผมไม่ได้หมายถึงความเป็นตัวเอกในละครที่ใครๆ ก็สู้ไม่ได้นะครับ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของการมี Growth Mindset คือการมองความล้มเหลวเป็นบันไดสู่การเป็นคนที่เก่งยิ่งขึ้น ซึ่งพวกพระเอกในซีรีย์หรือในการ์ตูนส่วนใหญ่มักจะมีครับ

ดังนั้น Growth Mindset จึงถือได้ว่าเป็นรากฐานของกระบวนการพัฒนาตนเองเลยก็ว่าได้ เพราะว่าทุกๆ ครั้งที่เราพัฒนาตัวเอง เราจะต้องเจอกับอุปสรรคที่ต้องฝ่าฟัน เหมือนกับตัวเอกในละครหรือการ์ตูนที่เราชอบนั่นเอง  

แต่ว่าการแก้ปัญหาในที่นี้ บางครั้งก็ไม่ใช่แค่การสู้มุดทะลุ แต่เป็นการยอมแพ้จากการใช้วิธีที่หนึ่งไปใช้วิธีที่สองได้เช่นกัน

ตัวอย่างคือ การลาออกจากงานที่ทำแทนที่จะทนทำไปเรื่อยๆ และหางานใหม่ที่ตอบโจทย์ Career Path เรามากกว่าการทำไปเรื่อยๆ เป็นวิธีการที่น่าจะดีมากกว่า เพราะว่าการยอมแพ้จากงานนี้ไม่ได้หมายความว่างานอื่นเราจะต้องยอมแพ้ด้วย การรู้ว่าตอนไหนควรเลิกตอนไหนควรสู้ก็เป็นวิธีคิดที่ฉลาดไม่ต่างจากการพยายามบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จเหมือนกัน ดังนั้นการมี Growth Mindset นั้นไม่ได้แค่การพยายามอย่างเดียว แต่เป็นการฉลาดแก้ปัญหาด้วย

ถ้าเราอยากเข้าใจ Growth Mindset มากขึ้นละก็ การเข้าใจว่า Growth Mindset มีลักษณะอย่างไรจะช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้น

หนังสือ Mindset อธิบายไว้ครบเรื่อง Growth Mindset

ถ้าสนใจเรื่อง Growth Mindset อยากอ่านแบบละเอียดๆ ต้องอ่านจากต้นฉบับเล่มนี้เลยครับ

Growth Mindset มีลักษณะเป็นอย่างไร?

1. การเชื่อมั่นในพลังแห่งการเรียนรู้

รากฐานสำคัญของการมี Growth Mindset คือการมีจิตใจที่ต้องการเรียนรู้อย่างแท้จริง คนที่มี Growth Mindset มักจะให้ความสำคัญกับการเรียนรู้มากกว่าเรื่องอื่นๆ 

พระเอกสุดหล่อในซีรีย์เกาหลีที่ยอมรับว่าตัวเองไม่ได้รู้จักนางเอกมากนัก จึงพยายามทำความเข้าใจและเทคแคร์นางเอกมากขึ้นเพื่อให้อยู่ด้วยกันได้ หรือพระเอกในการ์ตูนดังอย่างนารูโตะที่ยอมรับว่าตัวเองยังอ่อนหัดและฝึกตัวเองจนสามารถกอบกู้หมู่บ้านตัวเองไว้ได้ ทั้ง 2 ตัวอย่างนี้ก็ถือได้ว่าเป็นคนที่มี Growth Mindset 

การยอมรับว่าตัวเองยังไม่รู้ทุกเรื่องและขอความรู้จากคนอื่นเป็นสิ่งที่คนมี Growth Mindset ทำได้โดยไม่รู้สึกอะไร แม้ว่าอาจจะโดนคนอื่นมองว่าไม่ฉลาดก็ตาม

ดังนั้นการมี Growth Mindset นั้นจึงเป็นรากฐานสำคัญของกระบวนการพัฒนาตัวเอง เพราะ Growth Mindset ส่งเสริมให้เราได้คิดใหม่ ได้เรียนรู้ และพัฒนาได้โดยไม่ถูกฉุดรั้งจากความรู้สึกด้านลบของตัวเองนั่นเอง 

2. พยายามจนสำเร็จ = ได้เรียนรู้ ความหมายที่แท้จริงของความพยายาม

ความพยายามของแต่ละคนมีความหมายต่างกัน แน่นอนว่ารวมถึงความหมายของความพยายามจากคนที่มี Growth Mindset ด้วย

คนที่มี Growth Mindset มักจะมีมุมมองต่อความพยายามในแง่ของการเรียนรู้ นั่นก็คือ การแก้ไขปัญหาและการชนะอุปสรรคคือการได้เรียนรู้อย่างหนึ่ง

ซึ่งตรงนี้จึงเป็นเหตุผลที่องค์กรอยากให้พนักงานมี Growth Mindset อย่างมาก เพราะการมี Growth Mindset จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการเติบโตขององต์กร แต่สภาพแวดล้อมหลายอย่างในองค์กรส่วนใหญ่นั้น (จากประสบการณ์ส่วนตัว และจากงานวิจัยส่วนหนึ่ง) ไม่ได้มีการส่งเสริมให้เกิด Growth Mindset มากนัก

ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า น้ำหนักของความพยายามในมุมมองขององค์กรกับมุมมองของพนักงานนั้นค่อนข้างต่างกัน สำหรับองค์กรอาจหมายถึงการลงทุนในโครงการ 3,000 ล้าน ได้กำไร 500% แต่สำหรับพนักงานอาจเป็นการพยายามให้งานออกมาดีที่สุด แม้ว่าอาจจะไม่ได้ตามเป้ามากนัก

ดังนั้นเราจะเห็นว่า มีพนักงานหลายคนพยายามอย่างมากเพื่อให้งานสำเร็จ แต่พอทำได้ปุ้บ ส่วนใหญ่จะทำดีเสมอตัว ไม่โดนดุโดนว่า แต่ก็อาจจะไม่ได้รางวัลอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งทำให้ความพยายามกับรางวัลที่ได้รับนั้นไม่ Match กัน ซึ่งนำไปสู่การ Burnout และเน้นทำงานไปวันๆ มากกว่า

3. ล้มเหลว = ได้เรียนรู้ ความหมายที่แท้จริงของความล้มเหลว

คนที่มี Growth Mindset มักจะมองความล้มเหลวเท่ากับการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆครับ ทุกความล้มเหลวคือการพาตัวเองไปอยู่ในทางที่ถูกมากขึ้น

สาระสำคัญของการมี Growth Mindset ก็คือ การไม่กลัวที่จะลองผิดลองถูกและได้เรียนรู้จากมันครับ

ซึ่งจุดนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญที่ทำให้องค์กรไม่สามารภพัฒนาให้พนักงานอย่างเราๆ ให้มี Growth Mindset ได้ครับ 

ถ้าเราลองจินตนาการว่า วันนี้เราได้รับผิดชอบให้ขึ้นโครงการมูลค่า 500 ล้านบาทและล้มเหลว สิ่งที่ได้รับจากองค์กรน่าจะเป็นซองขาวมากกว่าบทเรียนที่ล้ำค่าเพื่อให้พัฒนาองค์กรได้แน่นอนฮะ

ดังนั้นถ้าจะพูดว่าสภาพแวดล้อมขององค์กรทำให้เราไม่ได้สามารถพัฒนา Growth Mindset ก็คงจะไม่ผิดนัก และสิ่งที่องค์กรทำเพื่อหวังจะสร้าง Growth Mindset อาจกลับกลายเป็นการสร้างอีก Mindset นึงที่เราเรียกกันว่า Fixed Mindset ครับ 

Fixed Mindset คืออะไร? ทำไมถึงเป็นศัตรูตัวฉกาจของการพัฒนาตัวเอง

ถ้าการมี Growth Mindset คือการสวมบทบาทเป็นพระเอกในการ์ตูนหรือพ่อหนุ่มเกาหลีในซีรีย์ที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคทั้งปวงละก็ การมี Fixed Mindset ก็ใกล้เคียงกับการเป็นตัวอิจฉาในซีรีย์หรือตัวร้ายในการ์ตูนก็ว่าได้นะครับ

Fixed Mindset negative thoughts frustration concept.

Fixed Mindset คือ วิธีคิดที่เชื่อมั่นในความสามารถและพรสวรรค์ของตัวเองว่าเป็นสิ่งที่มีมาตั้งแต่เกิดและไม่สามารถพัฒนาให้ดีกว่านี้ได้

สำหรับผมแล้วเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์มากๆ เพราะตัวผมเองก็ไม่ได้เก่งอะไรมาก แต่ก็พอจะรู้ตัวว่าตัวเองสามารถเรียนรู้ได้ จนสามารถเคี่ยวเข็ญตัวเองให้เขียนโปรแกรมได้ด้วยตนเองจนสำเร็จ

แต่ทุกคนเองก็มีความเป็น Fixed Mindset อยู่ในตัวเองนะครับ บางคนก็เชื่อว่าตัวเองไม่สามารถเรียนรู้การเขียนโปรแกรมได้ แม้จะพยายามแบบสุดๆ แล้วก็ตาม แต่พอเปลี่ยนเป็นเรื่องการเรียนศิลปะคนๆ นั้นกลับเชื่อว่าตัวเองจะสามารถเรียนได้แน่นอนถ้าใช้ความพยายามเท่าๆ กันกับการฝึกเขียนโปรแกรม

Fixed Mindset มีลักษณะอย่างไร?

1. พรสวรรค์สำคัญกว่าความพยายาม

คนที่มี Growth Mindset นั้นเชื่อในความพยายาม ส่วนคนที่มี Fixed Mindset จะเชื่อในพรสวรรค์ที่ช่วยทำให้คนๆ นั้นประสบความสำเร็จ

ถ้ายกตัวอย่างละก็ พนักงานที่มี Fixed Mindset จะมองว่าพนักงานที่ได้รับรางวัลหรือเลื่อนขั้นมีพรสวรรค์ที่ตัวเองไม่มี ดังนั้นตนเองจึงยอมแพ้ และล้มความพยายามที่จะทำให้ตัวเองได้รับการโปรโมต แต่ในทางกลับกัน พนักงานที่มี Growth Mindset จะมองว่าถ้าพยายามและศึกษามากขึ้นก็จะมีโอกาสได้เลื่อนขั้นเหมือนคนๆ นั้นได้แน่นอน

ไม่ใช่แค่นั้นครับ บางทีเราเห็นคนที่ไม่ได้ทำงานอะไรเป็นพิเศษหรือมีความสามารถโดดเด่นได้เลื่อนตำแหน่งแทนที่จะเป็นคนอื่นหรือเป็นเรา ยิ่งส่งเสริมให้เรามี Fixed Mindset หนักเข้าไปอีก เพราะเราจะมองว่าคนๆ นั้นไม่ทำงาน มันก็เลื่อนขั้นได้ งั้นเราไม่เห็นต้องพยายามเหมือนกับคนนั้นก็ได้มั้ง เป็นต้น

ผมเองก็มีความเป็น Fixed Mindset อยู่บ้างนะครับ ผมยอมรับว่าเวลาผมเห็นคนที่เรียนวิชายากๆ หรือได้ทำงานในบริษัทดังๆ อย่าง Google ที่มีไม่กี่คนที่มีโอกาสได้นั้น ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าไอ้คนพวกนี้ต้องมีพรสวรรค์และโชคช่วยในระดับนึงเลย ทั้งที่จริงๆ แล้ว คนที่ได้เข้าไปพยายามหนักกว่าหลายสิบเท่าเลยทีเดียว

ดังนั้นผมว่ามันไม่ผิดเลยจะเราที่จะมีความเป็น Fixed Mindset บ้าง แต่ขอให้มี Growth Mindset มากกว่านะครับ

2. การเรียนรู้ = การโอ้อวดว่าตัวฉลาดและพิเศษกว่าคนอื่น

สิ่งที่แตกต่างกันมากๆ ระหว่างการมี Growth Mindset กับการมี Fixed Mindset ก็คือจุดมุ่งหมายของการเรียนรู้ครับ

คนที่มี Growth Mindset มักจะพยายามจนสำเร็จเพื่อให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่คนที่มี Fixed Mindset จะพยายามทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองฉลาดและพิเศษกว่าคนอื่นๆ โอ้อวดว่าตัวเองมีพรสวรรค์เหนือใคร ซึ่งนำไปสู่อีกหัวข้อนึงนั่นก็คือ ความหมายของความล้มเหลว

3. ความล้มเหลว = ความล้มเหลว ยอมแพ้ง่าย ไม่สู้ต่อ เพราะฉลาดแค่นี้

ความล้มเหลวของการแสดงออกให้คนอื่่นรู้ว่าตัวเองไม่ฉลาด ไม่พิเศษกว่าคนอื่น ซึ่งทำให้คนมี Fixed Mindset นั้นยอมแพ้อะไรง่ายๆ เพราะ 

ตรงนี่นี้เองที่ผมมองว่าเป็นบ่อเกิดที่ทำให้คนในองค์กรไม่สามารถพัฒนา Growth Mindset ให้กับองค์กรได้

ตัวอย่างชัดๆ เลย ถ้าผมได้รับโอกาสในการรับผิดชอบโครงการมูลค่า 500 ล้านบาท แต่ก็รู้ตัวว่าตัวเองไม่มีความสามารถที่จะทำให้สำเร็จได้ ผมก็จะไม่เสนอตัวไปรับผิดชอบแน่ๆ

จะเห็นได้เลยว่า Fixed Mindset บังเกิดแก่ผมทันที ทำไมผมจะต้องพาตัวเองไปเสี่ยงโดนซองขาวด้วย? ให้คนมีความสามารถเขาทำไปเถอะ

แต่ถ้าองค์กรส่งเสริมเรื่อง Growth Mindset มีวิธีการรับมือในเรื่องความล้มเหลวที่ไม่ใช่ซองขาว ผมคงจะรับแบบว่าไม่คิดเลย เรียนรู้จากมันให้มากที่สุด แม้จะล้มเหลว แต่ก็ได้บทเรียนให้องค์รได้ไปปรับใช้กับโครงการอื่นๆ ได้ด้วย แน่นอนว่าองค์กรแบบนี้สามารถทำให้ผมมี Growth Mindset ที่แข็งแรงมากขึ้นได้แน่ๆ 

หนังสือ Mindset อธิบายเกี่ยวกับผลกระทบขององค์กรต่อการพัฒนา Mindset ไว้ดีมากๆ ครับ

ถ้าสนใจเรื่อง Growth Mindset อยากอ่านแบบละเอียดๆ ต้องอ่านจากต้นฉบับเล่มนี้เลยครับ

Fixed Mindset vs Growth Mindset

ผมว่าเราน่าจะพอเดาได้แล้วว่าการมี Growth Mindset น่าจะดีกว่าได้ Fixed Mindset แน่ๆ เลยใช่ไหม?

คำตอบก็คือ จริงครับ การมี Growth Mindset ดีกว่าการมี Fixed Mindset แน่นอน แต่ไม่ว่าคำตอบที่จะเป็น Growth Mindset หรือ Fixed Mindset ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ตลอด 

บางคนอาจจะเป็นคนที่มี Growth Mindset แต่พอเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ก็กลายเป็นคนมี Fixed Mindset ได้ ในทางกลับกันก็ไม่ใช่ว่าเราจะมีมายเซ็ทแบบ Fixed Mindset แล้วจะเป็น Fixed Mindset ไปตลอดนะครับ

คนเราสามารถเปลี่ยน Mindset ได้ ซึ่งความแตกต่างระหว่าง Growth Mindset และ Fixed Mindset สามารถดูรายละเอียดได้จาก Infograhpic ได้เลย

infographic แสดงความแตกต่างระหว่าง growth mindset และ fixed mindset infographic

แต่ถ้าอยากลงรายละเอียดว่า Growth Mindset คืออะไรละก็ บทความนี้มีคำตอบ และหนทางต่างๆ ในการจัดการ Mindset เหล่านี้ได้ยังไงบ้าง

หนังสือ Mindset อธิบายไว้ครบเรื่อง Growth Mindset

ถ้าสนใจเรื่อง Growth Mindset อยากอ่านแบบละเอียดๆ ต้องอ่านจากต้นฉบับเล่มนี้เลยครับ

Growth Mindset กับการพัฒนาตัวเองเกี่ยวข้องกันอย่างไร ทำไมถึงเป็นรากฐานของความสำเร็จ?

สิ่งสำคัญอันดับแรกสุดของการมี Growth Mindset ก็คือความเชื่อมั่นในตัวเอง ซึ่งเชื่อมั่นในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเชื่อมั่นในเรื่องพรสวรรค์ของตัวเอง แต่เป็นการเชื่อในเรื่องของศักยภาพในการเรียนรู้ของตัวเองครับ

ทุกความล้มเหลวคือการเรียนรู้ ทุกความสำเร็จจากความพยายามคือการเรียนรู้ พาตัวเองออกจาก Comfort Zone บ้าง ทีละนิดๆ (เน้นย้ำว่าทีละนิดนะครับ) ก็คือการเรียนรู้

เพียงเท่านี้เส้นทางสู่การเป็นคนทำงานมากความสามารถที่ใครๆ ก็ต้องการตัวคงไม่ไกลเกินเอื้อมแน่ๆ

นอกจากนี้ Growth Mindset ยังเป็นรากฐานสำคัญของการ Learning How to Learn หรือที่เราเรียกกันว่า “การเรียนอย่างถูกวิธี” ซึ่งจะช่วยให้คนทำงานอย่างเราๆ พัฒนาอย่างก้าวกระโดดได้หลายเท่าตัวครับ

ตอนนี้เราก็ได้เข้าใจแล้วว่า Growth Mindset กับ Learning เพื่อการพัฒนาตนเอง เกี่ยวข้องกันอย่างไร ทีนี้เราจะสามารถนำ Growth Mindset มาปรับใช้ในที่ทำงานได้อย่างไร มาดูกันเลยครับ

Growth Mindset มีอิทธิพลต่อความสำเร็จในการทำงานอย่างไร?

มีผลสำรวจพบว่าองค์กรที่พนักงานสามารถพัฒนา Growth Mindset ได้ พนักงานมักจะให้ความเห็นว่า

จากผลสำรวจข้างบน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมองค์กรอยากจะพัฒนา Growth Mindset ให้กับพนักงานตนเองบ้าง แต่อย่างที่เห็นก็คือว่า องค์กรไม่สามารถส่งเสริมให้พนักงานมี Growth Mindset ได้จริงๆ มีเพียงจำนวนไม่กี่องค์กรเท่านั้นที่ทำได้ ซึ่งเป็นที่มาของมุมมองที่ว่า Growth Mindset ในการทำงานเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ (ถ้าไม่ได้ในองค์กร)

อ้าว! ถ้าแบบนั้นมันจะมีประโยชน์อะไรละ?

ผมมองว่าสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่คอยหล่อหลอมให้เราเป็นคนใหม่ในทุกๆ วันครับ ถ้าสภาพแวดล้อมส่งเสริมให้เราเป็นคนที่มี Fixed Mindset เช่น ทำผิดโดนดุโดนว่า ไม่มีช่องว่างให้ผิดพลาดและเรียนรู้ ละก็ โอกาสที่จะพัฒนาตัวเองให้มี Growth Mindset ก็เป็นไปได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ครับ เรามาลองดูตัวอย่างคนทำงานที่สามารถพัฒนา Growth Mindset ได้สำเร็จนั้นหน้าตาเป็นยังไง 

ตัวอย่าง Growth Mindset ในคนทำงานที่ประสบความสำเร็จ

Jack Welch - CEO บริษัท General Electric (1980)

นิตยสาร Time เรียก Jack Welch ว่าเป็นผู้บริหาร (CEO) ที่ได้รับการยกย่องและเป็นต้นแบบให้กับผู้บริหารคนอื่นๆ ในยุคนั้น

สมัยที่ Jack ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็น CEO นั้น Jack เป็นคนที่เต็มไปด้วย Fixed Mindset มั่นใจในความสามารถตัวเองเกินไป จนมี 2 เหตุการณ์ที่ทำให้ Jack เปลี่ยนตัวเองและมุ่งมั่นในการเป็นหัวหน้าที่เปี่ยมไปด้วย Growth Mindset

เหตุการณ์แรกเป็นเหตุการณ์ที่ Jack ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เพราะมั่นใจในตัวเองมากเกินไป โดยการลงทุนในบริษัทซึ้งทำให้ General Electric (GE) เสียหายมูลค่าหลายล้านบาท

เหตุการณ์ที่สองคือสมัยที่ Jack เป็นวิศวกรที่ GE ซึ่งวันนั้น Jack ทำงานผิดพลาดและทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบริษัท Jack รีบขับรถหลายร้อยไมค์ไปหาหัวหน้า เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ฟังและพร้อมรับบทลงโทษอย่างสาสม แต่สิ่งที่ได้รับจากหัวหน้านั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ Jack ลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต

สิ่งที่หัวหน้าของ Jack ทำก็ทำความเข้าใจและซัพพอร์ทในสิ่งที่ Jack ทำ ว่าการมารายงานเป็นเรื่องที่ดีมาก และไม่ต้องกังวลในความเสียหายตรงนี้ หัวหน้าของ Jack บอกว่า การบริหารจัดการคนดีๆ ในองค์กรที่กล้ายอมรับผิดในสิ่งที่ทำ คือการช่วยให้พวกเขาฝ่าฟันมันไปให้ได้

ซึ่งสองเหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่ทำให้ Jack พัฒนา Growth Mindset ในแบบของตัวเอง และอยากจะเป็นหัวหน้าที่ส่งเสริม Growth Mindset ให้กับคนในองค์กรเหมือนกับที่หัวหน้าของ Jack ทำ

ต่อมา Jack ได้รับโอกาสเป็น CEO และได้นำเรื่อง Growth Mindset มาเป็นหัวใจหลักของวิสัยทัศน์องค์กร 

Jack Welch คุยกับลูกน้องและเห็นปัญหาหน้างานด้วยตนเอง ส่งเสริมการให้เครดิตลูกน้องในทีม มองความผิดพลาดเป็นการพัฒนา มุ่งเน้นการส่งเสริมให้ลูกน้องได้พัฒนาและเติบโตจากการเรียนรู้จากกรณีที่ทำสำเร็จและกรณีที่ผิดพลาด

นอกจากนั้น Jack ยกเลิกคลับของกลุ่มคนใหญ่คนโตในองค์กร ไล่หัวหน้าที่ส่งเสริม Fixed Mindset ออก ทำลายการเมืองภายในบริษัท และทำให้บริษัทเป็นสถานที่ที่ส่งเสริม Growth Mindset อย่างแท้จริง

ก่อนที่ Jack จะเข้ามาในฐานะ CEO มูลค่าของ GE อยูที่ 14 ล้านดอลล่าห์เท่านั้น แต่หลังจากที่ Jack เข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO 3 ปีให้หลัง มูลค่าของบริษัทก็ทะยานสู่ 480 ล้านดอลล่าห์ ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนา Growth Mindset ภายในองค์กรนั่นเอง 

5 วิธีการสร้าง Growth Mindset ฉบับคนทำงาน

สิ่งที่จะทำให้การพัฒนา Growth Mindset นั้นเป็นไปได้สำหรับคนทำงานก็คือการพัฒนา Growth Mindset นอกสถานที่ทำงานครับ

แน่นอนว่าเราใช้เวลาเกินครึ่งไปกับการทำงานแล้ว แต่ถ้าจัดสรรเวลาดีๆ จริงๆ ก็ยังพอจะมีช่องว่างให้เราสามารถเติมเต็มกิจกรรมที่จะช่วยให้เรามี Growth Mindset ได้อยู่ครับ โดยผมลองสรุปเป็น 5 วิธี ดังนี้

infographic 5 วิธีในการพัฒนา growth mindset

1. เริ่มต้นที่การเชื่อในศักยภาพตัวเอง เราสามารถเรียนรู้ได้และพัฒนาไปได้ไกลกว่าในทุกๆวัน

อย่างที่เล่าไปตอนต้น จุดเริ่มต้นของการพัฒนา Growth Mindset คือการเชื่อมั่นในศักยภาพการเรียนรู้ของตัวเองว่าเรียนรู้ได้ 

ซึ่งตรงนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ เพราะความเข้าใจที่ว่าทักษะของเราสามารถพัฒนาได้ผ่านการเรียนรู้และความพยายาม จะเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนเราให้เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง แทนที่จะหมกมุ่นกับเรื่องการไม่มีพรสววรค์และยอมแพ้ไปง่ายๆ ครับ

2. ยอมรับว่าตัวเองก็มีด้านที่มี Fixed Mindset และค่อยๆ พัฒนาให้เป็น Growth Mindset ไปทีละนิด

ทุกคนมี Fixed Mindset และ Growth Mindset อยู่ในตัว บางคนก็มี Growth Mindset กับบางเรื่องและมี Fixed Mindset กับบางเรื่อง

การยอมรับตรงนี้ได้จะช่วยให้เราเข้าใจว่าด้านไหนของตัวเราสามารถพัฒนาจาก Fixed Mindset ไปเป็น Growth Mindset ได้

ผมยอมรับว่าผมมี Fixed Mindset กับหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน เช่น คณิตศาสตร์ การเข้าสังคม และอีกมากมาย แต่เมื่อผมยอมรับว่าผมมี Fixed Mindset กับเรื่องเหล่านี้ได้ สิ่งที่ผมทำต่อจากนี้ก็คือการพาตัวเองออกจาก Fixed Mindset และค่อยๆ เรียนรู้ว่าจะทำยังไงกับพวกคณิตศาสตร์และการเข้าสังคมดี เพียงเท่านี้ผมก็เริ่มออกจาก Fixed Mindset ได้ทีละนิดและเริ่มพัฒนา Growth Mindset ได้แล้วครับ

ผมเชื่อว่าคนทำงานอย่างเราๆ ที่อ่านบทความนี้จนถึงตรงนี้ต้องทำได้อย่างแน่นอนครับ

หนังสือ Mindset อธิบายไว้ครบเรื่อง Growth Mindset

ถ้าสนใจเรื่อง Growth Mindset กับ Fixed Mindset ผมแนะนำให้อ่านเพิ่มเติมจากเล่มนี้เลยครับ อธิบายให้ละเอียดเลย

3. หากิจกรรมเพื่อสร้าง Growth Mindset

สมัยที่ผมพยายามจะเปลี่ยนสายงานไปทำงานด้าน Data Analytics สิ่งที่ผมทำก็คือการฝึกเขียนโค้ดครับ

การเขียนโค้ดนี่โคตรยากครับสำหรับคนหัวไม่ดีอย่างผม แต่ผมเชื่อมั่นจริงๆ ว่าผมสามารถเรียนรู้ได้ ตอนนี้ผมก็เขียนโปรแกรมได้ระดับนึง ไม่ได้เทพมาก แต่ก็ได้เอามาใช้ประโยชน์ในงาน Digital Marketing เยอะมากๆ 

การเขียนโค้ดกลายเป็นกิจกรรมที่ผมทำโดยที่ไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะพัฒนา Growth Mindset ด้วยซ้ำ แต่สิ่งผมที่ได้กับกลายเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าการย้ายสายงานซะอีก ในขณะที่ผมแค่อยากจะให้นายจ้างเห็นว่าผมทำงานได้ ผมกลับได้พัฒนา Growth Mindset ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ดังนั้น ถ้าใครกำลังวางแผนพัฒนา Growth Mindset อยู่ละก็ ผมแนะนำสุดๆ เลยครับให้ตั้งเป้าหมายว่าอยากจะเรียนรู้อะไรสักอย่างสำเร็จ แล้วลองพยายามให้ถึงที่สุด เหมือนที่ผมเรียน Data Analytics เพื่อจะย้ายสายงานครับ

4. สังเกตคำพูดที่พูดกับตัวเอง ใจดีกับตัวเองบ้างก็ได้

หลายครั้ง สิ่งที่ทำให้เราไม่สามารถพัฒนา Growth Mindset ได้ก็คือคำพูดไม่ดีที่เราพูดกับตัวเองครับ

บางทีเราก็อาจจะใจร้ายกับตัวเองไปสักนิดก็ได้นะครับ ผมเองก็เป็นนะครับอันนี้ ผมมักจะชอบพูดว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ ทำแบบเขาไม่ได้หรอก เบื่อ เหนื่อย ไม่อยากทำแล้ว (Fixed Mindset) 

จริงๆ แล้วคนเราเบื่อและเหนื่อยได้ ไม่ผิดเลยครับ ขอแค่ว่าถ้าหายเหนื่อยแล้วอย่าลืมกลับมาลุยต่อนะครับ ปล่อยให้ตัวเองได้ฮีลจิตใจ ให้พร้อมกลับมาเรียนรู้อีกครั้ง เพียงเท่านี้เราก็เข้าใกล้เป้าหมายที่เราวางไว้ทีละนิดแล้วครับ

5. ฝึกลองผิดลองถูก พาตัวเองออกจาก Comfort Zone ทีละนิด

การลองผิดลองถูก ปรับตัวไปตามความเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้จากความล้มเหลว คือหัวใจสำคัญของการมี Growth Mindset ครับ

ถ้าอยากจะพัฒนา Growth Mindset ให้กับตัวเองละก็ ผมคิดว่าการลองผิดลองถูกจะทำให้เราพัฒนา Growth Mindset ได้เร็วมากๆ ครับ

เราอาจเริ่มจากว่า ถ้าปกติทำงานโดยวิธีการ A เราอาจจะลองเปลี่ยนมาใช้วิธี B ดู โดยการลองผิดลองถูกนอกเวลางานว่าเวิร์คไม่เวิร์ค ถ้าได้เวิร์คละก็ ค่อยกลับมาใช้งานที่บริษัทของตัวเองต่อก็ได้ และถ้าไปได้สวยละก็ นอกจากจะได้พัฒนา Growth Mindset แล้ว เราอาจจะได้การยอมรับและคำชมจากหัวหน้าอีกด้วยนะครับ

สรุป Growth Mindset

Growth Mindset คือวิธีคิดที่เชื่อมั่นในศักยภาพการเรียนรู้ของตัวเอง ไม่ยอมแพ้ พยายามจนถึงที่สุด และมองความล้มเหลวผ่านการลองผิดลองถูกเป็นการเรียนรู้

สำหรับคนทำงานอย่างพวกเรา การพัฒนา Growth Mindset เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นการพัฒนา Growth Mindset นอกสถานที่ทำงานจึงเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้เราพัฒนา Mindset ที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จทั้งในหน้าที่การงานและอนาคตของเรา และหนทางนี้มีอยู่ทั้งหมด 5 วิธี

  1. เชื่อมั่นในศักยภาพในการเรียนรู้ของตัวเอง
  2. ยอมรับว่าตัวเองก็มี Fixed Mindset และค่อยๆ พัฒนาไปทีละนิด
  3. หากิจกรรมที่ส่งเสริม Growth Mindset
  4. ใจดีกับตัวเองบ้าง อย่าลงโทษตัวเองมากเกินไป ใช้คำพูดดีๆ กับตัวเองบ่อยๆ
  5. พาตัวเองออกจาก Comfort Zone ผ่านการลองผิดลองถูกทีละนิด

 

เรื่องของการพัฒนา Growth Mindset ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ดังนั้นเริ่มเลยวันนี้ดีที่สุดครับ ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ก็ฝากกดดาวให้ด้วยนะครับ และถ้ากำลังหาเว็บรีวิวและสรุปหนังสือสามารถอ่านเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของผมเลยนะครับ

หนังสือ Mindset อธิบายไว้ครบเรื่อง Growth Mindset

ถ้าสนใจเรื่อง Growth Mindset กับ Fixed Mindset ผมแนะนำให้อ่านเพิ่มเติมจากเล่มนี้เลยครับ อธิบายให้ละเอียดเลย

บทความนี้มีเป็นประโยชน์กับคุณหรือไม่?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวตเลย!

Average rating 5 / 5. Vote count: 9

Written by